ในตรอกแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเกียวโต ห่างไกลจากความสับสนวุ่นวายของผู้คน ยังมีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่จะมอบความเป็นกันเองและรังสรรค์อาหารทะเลแสนอร่อยแบบต้นตำรับ เป็นที่รู้กันดีว่าชาวเกียวโตนั้นมักจะเก็บงำร้านอาหารที่โปรดปรานของพวกเขาไว้เป็นความลับจากคนนอก ร้านซูชิโดโคโระมังก็เป็นหนึ่งในความลับนั้น ที่นี่คุณจะได้พบกับอาหารชั้นเลิศและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศท้องถิ่น

ร้านเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ทำเลใหม่ได้เพียงแปดเดือนเท่านั้น หากมองจากภายนอก ร้านซูชิโดโคโระมังจะโดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ใช้ไม้สีอ่อน กระจก และลายเส้นเรียบง่าย ช่างดูเชื้อเชิญยิ่งนัก ที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ทั้งเก้าที่และโต๊ะอาหารอีก 26 ที่นั่งก็เช่นเดียวกัน

เชฟอกิระ อูเมะฮาระ (มังซัง) จะสวมหมวกและชุดเชฟสีขาวสะอาดตา ใบหน้าของเขากว้าง ใบหูใหญ่ ดวงตาทอประกาย มือและข้อมือที่หนาใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวของคล่องแคล่วระหว่างการแล่ปลา เขาเป็นซูชิมาสเตอร์มากว่าสี่สิบปีแล้ว เขาทำงาน – รวมถึงเป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ – ร่วมกับภรรยาและลูกชายของเขามาถึงสิบสามปี

“ผมจะไปซื้อปลาที่ตลาดทุกวัน บางครั้งก็จะชาวประมงร้องเรียกให้มาซื้อปลาที่ดีที่สุดของเขาจากบนเรือเลย” เขาเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี ความรักที่เขามีให้กับอาชีพนี้แสดงออกอยู่ในความสดใหม่ของอาหารที่เขาทำ รสชาติของอาหารทะเลนั้นช่างสดเหมือนว่ามันยังแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลเมื่อเช้านี้

คุณอูเมะฮาระยึดมั่นในสไตล์การทำอาหารแบบเกียวโต มีทั้งปลาย่างและปลาทอด เช่นเดียวกับเนื้อปลาสดๆ คุณสามารถเลือกทานได้ทั้งแบบโอมากาเซะ (เชฟจะเป็นคนเลือกอาหารให้คุณ) หรือแบบอาหารจานเดี่ยวก็ได้

เมนูอาหารของเรานั้นขึ้นอยู่กับฤดูกาล บางคืนคุณอาจได้รับประทานอูนิ (เม่นทะเล) เสิร์ฟมาพร้อมเปลือก เนื้อปลาโอแล่สด มากุโระ โทโระ (เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่า) อิกะ (หมึกกระดอง) เนื้อปลาปักเป้าทอด เนื้อปลาไหลทะเลนึ่ง และเนื้อปลาไหลแม่น้ำย่างเสิร์ฟพร้อมข้าว ปริมาณอาหารนั้นพอดีคำ เปิดโอกาสให้แขกของเราได้อิ่มเอมกับอาหารที่หลากหลาย

เรายังมีไวน์จากยุโรปและสาเกชั้นหนึ่งซึ่งเข้ากับอาหารได้เป็นอย่างดีไว้คอยบริการ

“ผมตรวจดูปลาทุกตัวอย่างถี่ถ้วน” คุณอูเมะฮาระเอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะเขินๆ “จากนั้นผมจึงจะตัดสินใจว่า มันสมควรจะถูกนำมาเสิร์ฟให้กับแขกของผมหรือไม่”